การออกแบบเครือข่ายภายในที่มีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ไม่เว้นแม้แต่บ้านพักอาศัยไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่ เนื่องจากเครือข่ายภายในเป็นหัวใจสำคัญในการเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ เช่น กล้องวงจรปิด สมาร์ทโฟน อุปกรณ์ IoT  ให้การทำงานเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ

​

ทำไมการออกแบบเครือข่ายภายในจึงสำคัญ?
 

• เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน: ช่วยสามารถเข้าถึงข้อมูลและทรัพยากรต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว ทำให้การทำงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

• เพิ่มความปลอดภัย: ช่วยป้องกันการโจมตีจากภายนอกและการรั่วไหลของข้อมูล

• รองรับการเติบโตของธุรกิจ: สามารถปรับขยายเครือข่ายได้ตามความต้องการในอนาคต
   

ปัจจัยที่ต้องพิจารณาในการออกแบบเครือข่ายภายใน
 

• ขนาดและจำนวนผู้ใช้: จำนวนผู้ใช้และอุปกรณ์ที่ต้องการเชื่อมต่อในระบบ

• ประเภทของการใช้งาน: การใช้งานประเภทต่างๆ มีความต้องการในการใช้งานเครือข่ายที่แตกต่างกัน

• งบประมาณ: งบประมาณที่มีอยู่จะกำหนดขอบเขตของเครือข่ายที่สามารถสร้างได้

• ความต้องการด้านความปลอดภัย: ระดับความปลอดภัยที่ต้องการจะส่งผลต่อการเลือกอุปกรณ์และการกำหนดค่าเครือข่าย
   

ขั้นตอนการออกแบบเครือข่ายภายใน
 

1. วิเคราะห์ความต้องการ: ศึกษาความต้องการในการใช้งานเครือข่าย เช่น จำนวนผู้ใช้งาน ประเภทของแอปพลิเคชันที่ใช้งาน และความเร็วในการเชื่อมต่อที่ต้องการ

2. ออกแบบโครงสร้างเครือข่าย: เลือกโครงสร้างเครือข่ายที่เหมาะสมกับขนาดและความซับซ้อน เช่น โครงสร้างแบบ Star, Bus หรือ Ring

3. เลือกอุปกรณ์: เลือกอุปกรณ์เครือข่าย เช่น สวิตช์ เราเตอร์ ไฟร์วอลล์ และ Access Point ให้เหมาะสมกับความต้องการ

4. วางแผนการเดินสาย: วางแผนการเดินสายเครือข่ายให้มีความเป็นระเบียบและปลอดภัย

5. ติดตั้งและทดสอบ: ติดตั้งอุปกรณ์เครือข่ายและทำการทดสอบระบบเพื่อให้แน่ใจว่าทำงานได้อย่างถูกต้อง

6. บำรุงรักษา: ดำเนินการบำรุงรักษาเครือข่ายอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้ระบบทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    

เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบเครือข่ายภายใน
 

• VLAN: Virtual Local Area Network ช่วยแบ่งแยกเครือข่ายย่อยภายในเครือข่ายหลัก ลดข้อมูลซ้ำซ้อนในระบบ

• QoS: Quality of Service ช่วยจัดลำดับความสำคัญของการใช้งานแบนด์วิธ ให้การทำงานของภาพรวมที่ดียิ่งขึ้น

• VPN: Virtual Private Network ช่วยสร้างเครือข่ายส่วนตัวแบบเสมือน โดยสามารถเชื่อมต่อระหว่างสถานที่หลายๆ แห่ง หรือหลายๆ อุปกรณ์ในสถานที่แต่ละแห่งให้เชื่อมต่อเข้าหากันได้เหมือนอยู่ภายในเครือข่ายเดียวกัน

• Wi-Fi: Wireless Fidelity ช่วยให้สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์แบบไร้สายได้ ปัจจุบันเทคโนโลยีมีความซับซ้อน และทำงานได้รวดเร็วยิ่งขึ้น จึงต้องเลือกใช้งานให้เหมาะสมกับระบบเครือข่ายภายในที่ออกแบบไว้
   

ตัวอย่างการใช้งานเครือข่ายภายใน
 

• เชื่อมต่อรักษาความปลอดภัย: เชื่อมต่ออุปกรณ์รักษาความปลอดภัยเข้าด้วยกันให้สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพเช่น หากกล้องวงจรปิดตรวจพบการบุกรุก ก็จะสั่งงานผ่านระบบเครือข่ายภายในให้อุปกรณ์ Alarm ส่งสัญญาณเตือน เปิดสวิตซ์ไฟในบ้าน หรือเชื่อมเชื่อมไปยังระบบเครือข่ายภายนอกเพื่อแจ้งเหตุกับเจ้าของบ้านและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง

• เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์: เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ของพนักงานเข้าด้วยกันเพื่อให้สามารถแชร์ไฟล์และทรัพยากรอื่นๆ

• เชื่อมต่ออุปกรณ์พิมพ์: เชื่อมต่อเครื่องพิมพ์เข้ากับเครือข่ายเพื่อให้พนักงานทุกคนสามารถใช้งานได้

• เชื่อมต่อระบบโทรคมนาคม: เชื่อมต่อระบบโทรศัพท์ IP เพื่อให้พนักงานสามารถโทรออกและรับสายได้